กิจการเจ๊ง นายจ้างเลิกจ้างได้ ไม่ถือว่าเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม
คำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีชำนาญพิเศษที่ 1499-1509/2563
เรื่อง นายจ้างประสบปัญหาทางการเงิน ยอดสั่งซื้อลดลง ขาดสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ ก่อนเลิกจ้างและปิดกิจการโรงงานนั้น ได้ให้บริษัท เอ ทำสัญญาเช่าโรงงานและโอนใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน จึงเชื่อได้ว่านายจ้างหยุดประกอบกิจการอันเนื่องจากเศรษฐกิจที่ถดถอย นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างทั้งหมดโดยไม่ปรากฎว่ามีการกลั่นแกล้งหรือเลือกปฏิบัติ การเลิกจ้างจึงมีความจำเป็นและมีเหตุสมควรเพียงพอ ไม่เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม
คดีนี้โจทก์กับพวกรวม 11 คน ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 จำเลยเลิกจ้างโจทก์กับพวกโดยอ้างว่าไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ แต่แท้จริงจำเลยมิได้ปิดกิจการ การเลิกจ้างจึงไม่เป็นการเลิกจ้างที่ไม่มีเหตุอันสมควร ขอบังคับให้จำเลยจ่ายค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมแก่โจทก์ คนละ 300,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย จำเลยให้การว่า จำเลยประสบปัญหาเศรษฐกิจและมีหนี้สินทางการค้าจำนวนมาก ทั้งประสบปัญหาการปกครองและการบริหารงานในสถานประกอบกิจการ โดยสหภาพแรงงานกับพนักงานจำนวนหนึ่งแสดงตนเป็นปรปักษ์และต่อต้านการบริหารของจำเลยเลิกจ้างยังได้จ่ายค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าแก่โจทก์ทุกคนด้วย ศาลแรงงานภาค 2 พิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง โจทก์กับพวกอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ศาลแรงงานภาค 2 ฟังข้อเท็จจริงแล้ววินิจฉัยว่า โจทก์กับพวกทั้ง 11 คน เป็นลูกจ้างประจำรายเดือน จำเลยได้รับคำสั่งการผลิตจากลูกค้าแล้วไม่สามารถทำการผลิตได้ตามเป้าหมายและสินค้ามีปัญหา ทำให้ไม่สามารถส่งมอบสินค้าให้แก่ลูกค้าได้ จนทำให้บริษัทที่สั่งการผลิตไปว่าจ้างบริษัทอื่นแทน เป็นเหตุให้รายได้ของจำเลยลดลง เมื่อพิจารณาแบบนำส่งงบการเงินของจำเลยตั้งแต่ปี 2557-2561 ปรากฎว่าจำเลยมีกำไรสุทธิลดลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งปี 2561 มีกำไรเพียง 94,774.51 บาท ทั้งจำเลยยังมีหนี้ค้างชำระแก่บุคคลภายนอกซึ่งถูกเจ้าหนี้ฟ้องหลายคดีรวม 11,653,993.91 บาท แต่จำเลยเป็นเจ้าหนี้ที่ฟ้องลูกหนี้เพียง 4,585,551.19 บาท จึงฟังได้ว่าจำเลยประสบปัญหาทางการเงินยอดสั่งซื้อลดลง ขาดสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ ประกอบกับก่อนเลิกจ้างและปิดกิจการโรงงานนั้นจำเลยได้ให้บริษัท เอ ทำสัญญาเช่าโรงงานและโอนใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน จึงเชื่อได้ว่าจำเลยหยุดกิจการอันเนื่องจากเศรษฐกิจที่ถดถอย เมื่อจำเลยเลิกจ้างลูกจ้างทั้งหมด โดยไม่ปรากฎว่ามีการกลั่นแกล้งหรือเลือกปฏิบัติ โดยก่อนเลิกจ้างมีการปิดประกาศกำหนดระยะเวลาให้ลูกจ้างทราบและจ่ายค่าชดเชย จึงเป็นการเลิกจ้างที่มีความจำเป็นและมีเหตุผลสมควรเพียงพอไม่เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม
ที่โจทก์กับพวกอุทธรณ์ในทำนองว่า จำเลยเลิกจ้างเนื่องจากโจทก์กับพวกเป็นกรรมการสหภาพแรงงาน ทำให้จำเลยไม่พอใจจึงหาทางจำกัด หรือล้มสหภาพก็ดี จำเลยไม่ได้ปิดกิจการเพียงแต่ให้บริษัท เอ เช่าโรงงาน ..เป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 54 วรรคหนึ่ง ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษไม่รับวินิจฉัย พิพากษายกอุทธรณ์โจทก์กับพวก