เบิกสินค้ามาขายแต่ไม่นำเงินไปส่งคืนนายจ้าง เป็นร่วมกันยักยอกทรัพย์ มิใช่ร่วมกันลักทรัพย์นายจ้าง|เบิกสินค้ามาขายแต่ไม่นำเงินไปส่งคืนนายจ้าง เป็นร่วมกันยักยอกทรัพย์ มิใช่ร่วมกันลักทรัพย์นายจ้าง

เบิกสินค้ามาขายแต่ไม่นำเงินไปส่งคืนนายจ้าง เป็นร่วมกันยักยอกทรัพย์ มิใช่ร่วมกันลักทรัพย์นายจ้าง

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

เบิกสินค้ามาขายแต่ไม่นำเงินไปส่งคืนนายจ้าง เป็นร่วมกันยักยอกทรัพย์ มิใช่ร่วมกันลักทรัพย์นายจ้าง

  • Defalut Image

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 45/2567 

บทความวันที่ 24 ม.ค. 2568, 11:44

มีผู้อ่านทั้งหมด 278 ครั้ง


เบิกสินค้ามาขายแต่ไม่นำเงินไปส่งคืนนายจ้าง เป็นร่วมกันยักยอกทรัพย์ มิใช่ร่วมกันลักทรัพย์นายจ้าง
#ร่วมกันลักทรัพย์ #ร่วมกันยักยอกทรัพย์ #ร่วมกันลักทรัพย์นายจ้าง #แบ่งหน้าที่กันทำ 
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 45/2567 
          จำเลยที่ 1 ลูกจ้างโจทก์ซึ่งเป็นพนักงานขายสินค้ามีหน้าที่เบิกสินค้าโจทก์ไปจากคลังสินค้าเพื่อนำไปเร่ขายให้แก่ร้านค้าตามราคาที่โจทก์เป็นผู้กำหนด  เมื่อจำเลยที่ 1 ขายสินค้าได้เท่าใดในแต่ละวัน  จะต้องนำเงินค่าสินค้ามาส่งมอบให้แก่โจทก์ และส่งคืนสินค้าที่เหลือกลับเข้าคลังสินค้า  การที่จำเลยท่ี่ 1 เบิกสินค้าของโจทก์ออกไปจากคลังสินค้า  โจทก์ได้ส่งมอบการครอบครองสินค้าให้แก่จำเลยที่ 1 ไปเป็นการเด็ดขาด หาใช่เป็นการมอบการครอบครองไว้ชั่วคราวไม่
         การที่จำเลยที่ 1 นำสินค้าของโจทก์บางส่วนที่เบิกมาในแต่ละครั้งไปขายแต่ไม่ส่งมอบเงินค่าสินค้าที่ขายให้แก่โจทก์ กลับนำเงินดังกล่าวไปแบ่งปันให้จำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 และที่ 7 ซึ่งเป็นลูกจ้างโจทก์ด้วย โดยจำเลยเหล่านั้นมีหน้าที่ลงรายการในเอกสารและบันทึกข้อมูลในระบบอิเล็กทรอนิกส์ให้ปรากฎว่าสินค้าที่จำเลยที่ 1 นำไปขายนั้นได้ส่งคืนกลับเข้าคลังสินค้าโดยถูกต้องครบถ้วนแล้ว  เพื่อมิให้โจทก์ทราบว่ามีการขายสินค้าของโจทก์แล้วแต่ไม่มีการส่งมอบเงินค่าสินค้าให้แก่โจทก์ จึงเป็นกรณีที่จำเลยที่ 1 ร่วมกับจำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 และที่ 7 เป็นตัวการแบ่งหน้าที่กันทำในการเบียดบังเงินที่ได้จากการขายสินค้าไปเป็นของจำเลยดังกล่าวโดยทุจริต  อันเป็นความผิดฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ตาม ป.อ.มาตรา 352 วรรคแรก  หาใช่เป็นความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์นายจ้างไม่

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก