ผู้เสียหายมีส่วนประมาท ไม่ใช่ผู้เสียหายในคดีอาญา แต่เป็นผู้เสียหายทางแพ่ง เรียกค่าเสียหายได้|ผู้เสียหายมีส่วนประมาท ไม่ใช่ผู้เสียหายในคดีอาญา แต่เป็นผู้เสียหายทางแพ่ง เรียกค่าเสียหายได้

ผู้เสียหายมีส่วนประมาท ไม่ใช่ผู้เสียหายในคดีอาญา แต่เป็นผู้เสียหายทางแพ่ง เรียกค่าเสียหายได้

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

ผู้เสียหายมีส่วนประมาท ไม่ใช่ผู้เสียหายในคดีอาญา แต่เป็นผู้เสียหายทางแพ่ง เรียกค่าเสียหายได้

  • Defalut Image

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 995/2567   

บทความวันที่ 24 มี.ค. 2568, 10:07

มีผู้อ่านทั้งหมด 582 ครั้ง


ผู้เสียหายมีส่วนประมาท ไม่ใช่ผู้เสียหายในคดีอาญา แต่เป็นผู้เสียหายทางแพ่ง เรียกค่าเสียหายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 995/2567   
            ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงในคดีส่วนแพ่งว่า จำเลยประมาทและผู้ตายมีส่วนประมาทก่อให้เกิดความเสียหายไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าจำเลย โจทก์ร่วมอุทธรณ์ว่า จำเลยขับรถชนผู้ตายเป็นผลโดยตรงจากความประมาทของจำเลยเพียงผู้เดียว  จำเลยแก้อุทธรณ์ว่า ผู้ตายมีส่วนประมาทด้วย  ดังนี้ ปัญหาว่าผู้ตายหรือจำเลยเป็นฝ่ายประมาทมากกว่ากันยังไม่เป็นที่ยุติตตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
            แม้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 บัญญัติให้ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฎในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา  แต่ข้อเท็จจริงที่ฟังยุติในคำพิพากษาคดีอาญามีเพียงว่าจำเลยกระทำโดยประมาท ไม่ปรากฎว่าผู้ตายหรือจำเลยเป็นฝ่ายประมาทมากกว่ากัน ในการดำเนินคดีส่วนแพ่งโจทก์ร่วมและจำเลยย่อมสามารถนำสืบให้เห็นได้ว่าฝ่ายใดประมาทมากกว่ากัน และโจทก์ร่วมควรจะได้รับชดใช้ค่าเสียหายจากจำเลยหรือไม่ เพียงใด ซึ่งตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายอันว่าด้วยความรับผิดของบุคคลในทางแพ่งในกรณีต่างฝ่ายต่างประมาททำให้เกิดเป็นมูลหนี้ละเมิด  ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 442 ให้นำบทบัญญัติแห่งมาตรา 223  มาใช้บังคับโดยอนุโลม
            แม้ผู้ตายซึ่งมีส่วนประมาทอยู่ด้วย  ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย สำหรับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) ม. บิดาผู้ตายไม่มีอำนาจเข้าเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการ  ตามประมวลกฎหมายวิธีจารณาความอาญา มาตรา 30 แต่ ม. ยังคงมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 44/1 โดยไม่จำต้องคำนึงว่าผู้ตายจะเป็นผู้เสียหายโดยนิตินัยหรือไม่ ม.ซึ่งเป็นบิดาของผู้ตายมีสิทธิจะยื่นคำร้องขอให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในความเสียหายของผู้ตายได้

มีปัญหากฎหมาย สอบถามได้ที่ 02-9485700, 081-6161425,081-6252161  

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก