ซื้อขายที่ดินป่าสงวนผิดกฎหมาย ฟ้องร้องกันเองไม่ได้|ซื้อขายที่ดินป่าสงวนผิดกฎหมาย ฟ้องร้องกันเองไม่ได้

ซื้อขายที่ดินป่าสงวนผิดกฎหมาย ฟ้องร้องกันเองไม่ได้

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

ซื้อขายที่ดินป่าสงวนผิดกฎหมาย ฟ้องร้องกันเองไม่ได้

  • Defalut Image

คำพิพากษาฎีกาที่ 415/2567 

บทความวันที่ 17 ธ.ค. 2567, 11:05

มีผู้อ่านทั้งหมด 74 ครั้ง


ซื้อขายที่ดินป่าสงวนผิดกฎหมาย ฟ้องร้องกันเองไม่ได้
คำพิพากษาฎีกาที่ 415/2567 

    ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินที่ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติซึ่งตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2528 บุคคลที่จะเข้าทำประโยชน์หนืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติจะต้องเป็นผู้ได้รับอนุญาตเท่านั้น เมื่อ บ. เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้เข้าอยู่อาศัยและทำกินในที่ดินพิพาทชั่วคราว โดยมีเงื่อนไขห้ามมิให้แบ่งแยกและโอนที่ดินที่ได้รับการจัดสรรให้แก่บุคคลอื่น เว้นแต่ตกทอดทางมรดก บ. จึงไม่สามารถโอนสิทธิการเข้าอยู่อาศัยและทำกินในที่ดินพิพาทชั่วคราวให้แก่บุคคลอื่นได้ การที่ บ. ขายและโอนสิทธิการเข้าอยู่อาศัยและทำกินในที่ดินพิพาทชั่วคราวให้แก่ ว. และ ว. ทำสัญญาซื้อขายและโอนสิทธิการเข้าอยู่อาศัยและทำกินในที่ดินพิพาทชั่วคราวให้แก่โจทก์หรือจำเลยที่ 1 จึงเป็นการทำนิติกรรมเปลี่ยนตัวผู้ได้รับอนุญาตให้เข้าอยู่อาศัยและทำกินในที่ดินพิพาทชั่วคราวตามที่ บ. ได้รับอนุญาตให้แก่บุคคลอื่น เช่นนี้เป็นนิติกรรมที่มีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมายย่อมตกเป็นโมฆะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 150 โจทก์หรือจำเลยที่ 1 ไม่มีสิทธิยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยและทำกินในที่ดินที่พาท โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมสัญญาซื้อขายที่ดินและกิจการรีสอร์ตพิพาทระหว่างจำเลยทั้งสอง ให้จำเลยทั้งสองส่งมอบการครอบครองคืนแก่โจทก์ กับห้ามจำเลยทั้งสองและบริวารเข้าเกี่ยวข้อง
 

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก