ปล่อยให้บุคคลอื่นทำประโยชน์ในที่ดินตนเอง เท่ากับยอมโอนสิทธิเข้าทำประโยชน์ ฟ้องขับไล่ไม่ได้|ปล่อยให้บุคคลอื่นทำประโยชน์ในที่ดินตนเอง เท่ากับยอมโอนสิทธิเข้าทำประโยชน์ ฟ้องขับไล่ไม่ได้

ปล่อยให้บุคคลอื่นทำประโยชน์ในที่ดินตนเอง เท่ากับยอมโอนสิทธิเข้าทำประโยชน์ ฟ้องขับไล่ไม่ได้

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

ปล่อยให้บุคคลอื่นทำประโยชน์ในที่ดินตนเอง เท่ากับยอมโอนสิทธิเข้าทำประโยชน์ ฟ้องขับไล่ไม่ได้

  • Defalut Image

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 471-472/2567

บทความวันที่ 28 ม.ค. 2568, 11:50

มีผู้อ่านทั้งหมด 224 ครั้ง


ปล่อยให้บุคคลอื่นทำประโยชน์ในที่ดินตนเอง เท่ากับยอมโอนสิทธิเข้าทำประโยชน์ ฟ้องขับไล่ไม่ได้
#ฟ้องขับไล่ #ปฏิรูปที่ดิน #โอนสิทธิเข้าทำประโยชน์ #ลักลอบซื้อขายที่ดิน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 471-472/2567
    โจทก์ไม่เคยเข้าทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทและกลับปล่อยให้จำเลยที่ 1 เป็นผู้ทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทเพื่อตนเองมาตลอดนับตั้งแต่โจทก์ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์  เท่ากับโจทก์สละสิทธิทำประโยชน์ในที่ดินให้จำเลยที่ 1 แล้ว เป็นการกระทำที่ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2518  มาตรา 39 การที่โจทก์กลับมาอ้างสิทธิตามหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินและฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยทั้งสองจึงเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 5 จำเลยทั้้งสองซึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินแต่กลับเข้าไปทำประโยชน์ในดินพิพาทและลักลอบซื้อขายที่ดินพิพาทกันเป็นทอดๆ อันไม่ชอบด้วยกฎหมาย  เป็นเรื่องที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมซึ่งเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาท  ตามดพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2518 มาตรา 36 จะต้องว่ากล่าวเอาแก่จำเลยทั้งสองเอง  ไม่ทำให้โจทก์มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสอง
    

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก