ปล่อยให้บุคคลอื่นทำประโยชน์ในที่ดินตนเอง เท่ากับยอมโอนสิทธิเข้าทำประโยชน์ ฟ้องขับไล่ไม่ได้
#ฟ้องขับไล่ #ปฏิรูปที่ดิน #โอนสิทธิเข้าทำประโยชน์ #ลักลอบซื้อขายที่ดิน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 471-472/2567
โจทก์ไม่เคยเข้าทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทและกลับปล่อยให้จำเลยที่ 1 เป็นผู้ทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทเพื่อตนเองมาตลอดนับตั้งแต่โจทก์ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ เท่ากับโจทก์สละสิทธิทำประโยชน์ในที่ดินให้จำเลยที่ 1 แล้ว เป็นการกระทำที่ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2518 มาตรา 39 การที่โจทก์กลับมาอ้างสิทธิตามหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินและฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยทั้งสองจึงเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 5 จำเลยทั้้งสองซึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินแต่กลับเข้าไปทำประโยชน์ในดินพิพาทและลักลอบซื้อขายที่ดินพิพาทกันเป็นทอดๆ อันไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นเรื่องที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมซึ่งเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาท ตามดพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2518 มาตรา 36 จะต้องว่ากล่าวเอาแก่จำเลยทั้งสองเอง ไม่ทำให้โจทก์มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสอง